ข้อมูลประเภทลิสต์ (List) ในภาษา Python

ห้องเรียนออนไลน์pythonการพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงวัตถุ

ข้อมูลประเภทลิสต์ (List) ในภาษา Python

Chalothorn Kosakul    23 มิถุนายน, 2568    710 views

สารบัญ: การใช้งานลิสต์ (List) ในภาษา Python

บทความนี้สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลประเภท ลิสต์ (List) ในภาษา Python ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการจัดการข้อมูลหลายรายการ เช่น รายชื่อนักเรียน คะแนนสินค้า หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน การเข้าใจและใช้งานลิสต์อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เราจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และง่ายต่อการประยุกต์ใช้งานในอนาคต


ลิสต์ (List) คืออะไร?

ลิสต์ (List) คือโครงสร้างข้อมูลชนิดหนึ่งใน Python ที่สามารถเก็บข้อมูลได้หลายค่าในตัวแปรเดียว ข้อมูลแต่ละค่าภายในลิสต์จะเรียกว่า สมาชิก (Element) หรือบางครั้งก็เรียกว่า ไอเท็ม (items)

students = ["Aom", "Bank", "Chai", "Da"]
print(students)

ลิสต์สร้างขึ้นด้วย วงเล็บเหลี่ยม [] โดยสมาชิกแต่ละตัวคั่นด้วยเครื่องหมาย ,


คุณสมบัติของลิสต์

  • เก็บข้อมูลหลายชนิดรวมกันได้ เช่น ตัวเลข ข้อความ หรือลิสต์ซ้อนลิสต์
  • สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่ม หรือลบข้อมูลได้
  • รองรับการวนซ้ำ (Looping) และเข้าถึงข้อมูลด้วยดัชนี (Index)
print(students[0])   # แสดง 'Aom'
print(students[-1])  # แสดง 'Da' (index ติดลบคือย้อนจากท้าย)

การเพิ่ม/ลบสมาชิกในลิสต์

เพิ่มสมาชิกด้วย .append() หรือ .insert()

students.append("Fern")      # เพิ่มท้ายลิสต์
students.insert(2, "Beam")   # เพิ่มที่ตำแหน่ง index 2

ลบสมาชิกด้วย .remove(), del หรือ .pop()

students.remove("Bank")  # ลบตามชื่อ
del students[0]          # ลบตามตำแหน่ง index

last_student = students.pop()        # ลบตัวสุดท้ายและคืนค่า
second_student = students.pop(1)     # ลบที่ index 1 และคืนค่า

.pop() เป็นคำสั่งที่ทั้งลบสมาชิกและคืนค่าสมาชิกที่ถูกลบออกมา


การวนซ้ำสมาชิกในลิสต์

เราสามารถใช้คำสั่ง for เพื่อวนซ้ำค่าทุกตัวในลิสต์ได้

for name in students:
    print("ชื่อนักเรียน:", name)

การจัดลำดับลิสต์ (Sorting)

เรียงลำดับจากน้อยไปมาก หรือ A ถึง Z

students.sort()

เรียงลำดับจากมากไปน้อย หรือ Z ถึง A

students.sort(reverse=True)

บทสรุป

โครงสร้างข้อมูลลิสต์ใน Python เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราจัดการข้อมูลหลายรายการได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ นักเรียนสามารถต่อยอดความรู้จากลิสต์นี้ไปสู่โครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น เช่น คลาส (Class) และ อ็อบเจ็กต์ (Object) ในบทเรียนถัดไป

อ่านต่อ: การใช้ List 1 มิติ 2 มิติ และ 3 มิติใน Python


แชร์ข่าวนี้